Friday, May 27, 2011

gebrannte Cashewnüsse & Apfelstreusel Muffins


หมู่นี้กำลังบร้าถั่วกรอบแก้วค่ะ เพิ่งทำกินไปไม่กี่วัน นี่ก็ทำอีกล่ะ ครั้งนี้เลือกใช้บริการเม็ดมะม่วงหิมพานต์แทนอัลมอนด์ คนที่บ้านชอบมาก แต่เราว่าอัลมอนด์อร่อยกว่า ก็แล้วแต่ความชอบของคนเนอะ  งานนี้เราลองทำ 2 แบบ คือแบบให้เป็นทรายเคลือบธรรมดาเหมือนที่เค้าทำขายกัน แล้วก็แบบเป็นคาราเมลเคลือบ เราชอบแบบคาราเมลมากกว่า แต่คุณซาลามี่กลับชอบอีกแบบ สรุปว่ารสนิยมเราสองคนไม่เคยตรงกันเลยสักทีสิน่า ฮ่าๆ


รูปบนนี้ที่คุณเค้าปลื้ม เราทำรสวานิลา มันก็อร่อยดีหรอกค่ะ แต่เราว่าที่เคลือบคาราเมลอร่อยและหอมกว่า ตอนทำเสร็จใหม่ๆ  รู้สึกว่าแบบเคลือบคาราเมลกรอบกว่าด้วย แต่พอเย็นสนิทแล้วก็กรอบพอๆ กันทั้งสองแบบ

Thursday, May 26, 2011

ขนมจีนน้ำยาไก่



วันนี้ทำขนมจีนน้ำยาไก่กินเป็นมื้อเที่ยงค่ะ ขนมจีนนี้ไม่ได้ทำกินมานานพอสมควร เมื่อวันก่อนเพื่อนสาวทำขนมจีนน้ำยาไก่มาเผื่อด้วย อร่อยมาก วันนี้เลยเกิดอยากกินขึ้นมาอีกรอบ ลงมือทำจนได้ ฟาดไปซะ 2 จาน สะใจมาก กินเสร็จก็นั่งปวดท้องเพราะจุก ไม่เคยจำซะทีสิน่าว่าถ้าท้องมันบอกว่าอิ่มก็ควรจะหยุด แต่ปากกับใจมันค้านไงคะ เลยกินต่อ สุดท้ายก็ปวดท้องตามเคย 55

เครื่องปรุง  (โดยประมาณนะคะ ไม่ได้ตวง)
  • ไก่ เราใช้สะโพกติดน่อง 2 ชิ้นใหญ่ (หนักประมาณ 450 กรัมค่ะ) 
  • พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด
  • หอมแดง 4 หัว
  • ข่า 5-7 แว่น
  • กระชาย 4 แง่ง
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ใบมะกรูด 6-7 ใบ 
  • น้ำสะอาด 800 มล.  
  • เกลือป่น 1 ชช. 
  • กะทิ 200 มล. 
  • พริกแกงเผ็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2-3 ชต.
  • น้ำตาลทราย 1 ชช.
  • เส้นขนมจีน 
  • ไข่ต้ม ผักตามชอบ เช่น ผักกาดดอง, ถั่วฝักยาว, ถั่วงอก, กะหล่ำปลี, โหระพา, สะระแหน่, แครอท, หัวปลี ฯลฯ

Wednesday, May 18, 2011

Mocca Cake Roll and Sugar Roasted Almonds


วันนี้เป็นวันเกิดคุณแม่สามีค่ะ เราเลยถือโอกาสทำม็อคค่าโรลเค้กโปรดของแม่ให้ด้วย แม่ทานเสร็จกรี๊ดกร๊าดโทรมาบอกว่าปลื้มมากๆ ลูกสะใภ้ช่างรู้ใจ  นี่เป็นครั้งแรกที่ลองสานตระกร้าดู มือไม่นิ่งเลย ไม่รู้จะสั่นไปไหน ผลก็อย่างที่เห็นค่ะ โย้ไปเย้มาอย่างกับเล่นงูกินหาง แต่ก็ยังภูมิใจเสนอผลงานชิ้นแรกอยู่ดี ฮ่าๆ  วันนี้งานออกมาไม่เนี๊ยบแต่คนรับก็ถูกใจมาก แค่นี้คนทำก็พอใจแล้วเนอะ แต่ก็ตั้งใจไว้ว่าคราวหน้าจะพยายามทำให้เยินน้อยกว่านี้ให้ได้ค่ะ

เค้กนี้เป็นเนื้อม็อคค่าชิฟฟ่อนกับบัตเตอร์ครีมกาแฟค่ะ วันนี้ตั้งใจทำโรลค่อนข้างหนา แต่ไม่คิดว่าจะหนาขนาดนี้ ออกมาอวบอ้วนเชียว  เนื้อเค้กนุ่มฟูเบาดีมาก แต่เสียดายที่ทำครีมน้อยเกินไปหน่อย เลยใส่ไส้ได้บางๆ เพราะต้องเก็บครีมไว้เพื่อแต่งเค้กด้วย  ถ้าทำครีมมากกว่านี้อีกนิดน่าจะออกมาสวยกว่านี้นะคะ ครีมน้อยๆ เนี่ยต้องใช้สอยอย่างประหยัด ตอนสานตระกร้าหายใจไม่ค่อยทั่วท้องเลย กลัวครีมไม่พอ แต่โชคดีที่พอดีเป๊ะเลย


ตอนแรกตั้งใจจะทำรูปร่างโรลเป็นแผ่นแบบลูกระนาด แล้วก็บีบบัตเตอร์ครีมด้านบนเค้ก เสร็จแล้วก็ตกแต่งเพิ่มด้วยอัลมอนด์กรอบแก้วซึ่งทำเตรียมไว้ก่อนอบเค้กแล้วล่ะค่ะ  แต่ไปๆ มาๆ ไม่รู้นึกยังไงเกิดอยากสานตระกร้าขึ้นมา สุดท้ายเลยเปลี่ยนใจไม่ทำโรลลูกระนาด แต่เปลี่ยนมาทำเป็นแผ่นเรียบธรรมดา แล้วสานตระกร้าโดยไม่แต่งอย่างอื่นเพิ่มแทน เปลี่ยนใจทุก 3 วิอย่างที่คนที่บ้านชอบจิกกัดจริงๆ เลยเราเนี่ย

 

เนี่ยค่ะ gebrannte Mandeln หรือ sugar roasted almonds หรือ อัลมอนด์กรอบแก้วของเรานั่นเอง ก่อนหน้านั้นชอบซื้อเค้ากินเวลามีงานประจำปีต่างๆ หรือในตลาดคริสต์มาส  ขายแพงอย่างกับทองก็ไม่ปาน ทั้งที่ทำง่ายนิดเดียว ไม่กี่นาทีก็ได้กินแล้ว ตั้งแต่ทำเป็นเนี่ยร้านค้าทั้งหลายไม่ได้กินเงินเราแล้ว ทำกินเองคราวละ 200 กรัมก็สุขใจสบายพุงไปอีกนานเลยค่ะ

เจ้าอัลมอนด์ที่น่าสงสาร อุตส่าห์ทำเพื่อแต่งเค้กแต่คนทำดันเปลี่ยนใจไม่ใช้งานแล้วซะงั้น สุดท้ายพอคุณปู้จายเลิกงาน กลับถึงบ้านเห็นน้องอัลมอนด์ถูกทิ้งไม่เหลียวแลในห้องนั่งเล่น เธอเลยจัดการไปซะเกือบหมด เหลือไว้แจ๋วแค่ไม่กี่เม็ดเอง เซ็งจริงๆ  อัลมอนด์กรอบที่ทำวันนี้ถูกใจมากค่ะ กรอบกร๊อบ ไม่หวานจัด อร่อย กินเพลินจริงๆ

Friday, May 13, 2011

ขนมปังเฮเซลนัท : Hazelnut Bread Filling


ปกติหากเรามีโอกาสผ่านไปร้านเบเกอรี่โปรด ที่ทำขนมปังเฮเซลนัทได้อร่อยที่สุดเมื่อไรเป็นต้องซื้อติดมือกลับมาทุกครั้งเลยค่ะ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคนที่บ้านซื้อเจ้าขนมปังนี่จากร้านเดิมเนี่ยแหละมาฝาก แต่ครั้งนี้รสชาติต่างจากเดิมมาก เนื้อขนมค่อนข้างแห้งและไส้ก็ไม่ตู้มเหมือนเคย เหมือนเอาของเก่ามาขาย ผิดหวังมากๆ วันนี้อยากกินอีกเลยลงมือทำเองซะเลย ผลที่ได้ก็พอใจมากค่ะ รสชาติแทบจะก๊อบปี้จากที่ร้าน เพียงแต่ไม่หวานเท่าเพราะเราลดน้ำตาลจากสูตรค่อนข้างเยอะ พ่อแม่และคุณซาลามี่ก็ปลื้ม ตอนนี้ตัวขี้เกียจที่เคยเกาะอยู่ตั้งหลายเดือนเจอดีดกระเด็นไปเรียบร้อย เริ่มมีความสุขกับการทำขนมอีกครั้ง ต่อไปอยากกินอะไรคงทำเองหมด ไม่ต้องซื้อเค้ากินอีกแล้วค่ะ 

ตามมาดูสูตรกันเลยค่ะ วันนี้ไม่มีรูปวิธีทำมาให้ดูนะคะ พอดีไม่ได้คิดว่าจะลงสูตรเลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ แต่จะอธิบายวิธีทำอย่างละเอียดที่สุดนะคะ

 

ส่วนผสมโดว์ 
  • แป้งขนมปัง 300 กรัม (Typ 550)
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • ยีสต์สด 15 กรัม (ยีสต์แห้ง 5 กรัม)
  • นมอุ่น 125 มล.
  • ไข่ไก่ขนาดกลาง 1 ฟอง (น้ำหนักไม่รวมเปลือกประมาณ 50 กรัม)
  • เนยเค็ม 45 กรัม
  • เกลือป่น 1/2 ชช.
  • กลิ่นวานิลาบัทเทอร์ 1/2 ชช.
วิธีทำ

หากใครใช้ยีสต์แห้งให้แบ่งนมอุ่นมาประมาณ 3 ชต. ใส่ถ้วยเล็กๆ เทยีสต์ใส่ลงไป เติมน้ำตาลทราย 1 หยิบมือ คนพอละลายแล้วพักไว้ในที่อุ่นให้ยีสต์ขึ้นประมาณ 10 นาทีค่ะ ทำอย่างนี้เพื่อเป็นการทดสอบยีสต์ แล้วยังช่วยลดกลิ่นยีสต์จากขนมปังด้วยค่ะ

ใครใช้เครื่องทำขนมปังนวดให้ก็ใส่ส่วนผสมทุกอย่างในเครื่อง แล้วนวดและพักแป้งตามโปรแกรมตามเครื่องเลยนะคะ ส่วนเพื่อนๆ ที่นวดมือก็ทำตามนี้ค่ะ

ใส่ส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นเนย เกลือ และวานิลาในชามอ่าง ทำบ่อตรงกลาง บี้ยีสต์สดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยใส่ในบ่อแป้ง (หรือเทยีสต์แห้งที่ละลายไว้ใส่ในบ่อแป้ง) ใช้ไม้พายคนพอแป้งจับตัวกันแล้วใช้ผ้าคลุมพักไว้ในที่อุ่นอีกประมาณ 15-20 นาทีให้ยีสต์ทำงานค่ะ

เมื่อครบเวลาแล้วก็ใส่เนย เกลือ และวานิลาลงไป ใช้เครื่องตีหัวเกลียวนวดด้วยความเร็วสูงประมาณ 5 นาทีจนแป้งไม่ติดขอบอ่าง จากนั้นก็นวดมือต่อจนแป้งเนียนมือและขึงเป็นฟิล์มบางๆ ได้ค่ะ

จากนั้นก็รวบแป้งเป็นก้อนกลม คลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 1 ชม. จนแป้งขึ้นเป็น 2 เท่า วิธีทดสอบว่าแป้งขึ้นได้ที่หรือยังก็ใช้นิ้วจิ้มที่โดว์ดู หากแป้งไม่เด้งกลับแสดงว่าใช้ได้แล้วค่ะ   ระหว่างที่พักแป้งอยู่ก็มาทำไส้เฮเซลนัทกันเลยค่ะ

ส่วนผสมไส้เฮเซลนัท
  • นมสด 80 กรัม
  • น้ำตาลทรายสีรำ 65 กรัม
  • อบเชยป่น 1 ชช.
  • ผงโก้โก้ชนิดไม่หวาน 1 ชช. 
  • เฮเซลนัทอบป่นละเอียด (hazel meal) 150 กรัม
  • คุ๊กกี้เนยป่น 30 กรัม 
  • เหล้ารัม/น้ำแอ๊บเปิ้ล 1 ชต. (เราใส่กลิ่นรัมไป 3 หยดแทนค่ะ)
  • เนยสดนุ่มๆ 1 ชต. สำหรับทาแป้งก่อนใส่ไส้ 
วิธีทำ นำนมสด น้ำตาลทราย อบเชย และผงโกโก้ใส่หม้อตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน คนตลอดเวลาจนน้ำตาลละลายหมด ปิดไฟ ยกลงจากเตา ใส่นัทป่นลงไปคนให้เข้ากัน ใส่คุ๊กกี้ป่นและรัมลงไปผสมพอเข้ากัน เรียบร้อยค่ะ

เมื่อแป้งขึ้นดีแล้วก็นำมาคลึงไล่ลมประมาณ 1-2 นาที แล้วคลึงแป้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวประมาณ 25x30 ซม. ใช้แปรงชุบเนยทาให้ทั่วแผ่นแป้งโดยเว้นขอบไว้ประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นก็ใส่ไส้เกลี่ยให้ทั่วแผ่น แล้วม้วนแป้งเข้าหากันเป็นท่อนกลมยาว จากนั้นใช้มีดผ่าตามยาวให้เป็น 2 เส้น นำมาพันกันเหมือนเกลียวเชือกแล้วจับริมทาง 2 ข้างมาบรรจบกันเป็นวงกลม วางในพิมพ์กลมหรือพิมพ์ปล่องขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 ซม. ที่ทาเนยบางๆ จนทั่ว  คลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นอีกประมาณ 45 นาทีหรือจนแป้งขึ้นเกือบเต็มพิมพ์ค่ะ

เมื่อพักขนมจนแป้งขึ้นเกือบเต็มพิมพ์แล้วก็ลงมืออุ่นเตา อบไว้ที่อุณภูมิ 200 องศาเซลเซียสค่ะ พอความร้อนได้ที่ให้ใช้ขนแปรงนุ่มๆ ชุบนมสดทาหน้าขนมปัง แล้ววางพิมพ์ขนมปังบนตะแกรงชั้นที่ 2 จากล่าง ลดไฟเหลือ 180 องศาเซลเซียส อบจนขนมปังมีสีเหลืองทองสวย ใช้เวลาอบประมาณ 30 นาที หรือจนหน้าขนมปังมีสีเหลืองทองสวยค่ะ



เมื่อขนมปังสุกสีสวยดีแล้วก็นำออกจากเตาอบ ทาเนยที่หน้าขนมปังทันทีตอนที่ยังร้อนๆ เพื่อความหอมและความเงางาม  เสร็จแล้วก็นำขนมปังออกจากพิมพ์ วางไว้บนตะแกรงจนเริ่มอุ่นก็ทำท็อปปิ้งไอซิ่งทาหน้าค่ะ

 ส่วนผสมท็อปปิ้ง
  • น้ำตาลไอซิ่ง 20 กรัม
  • นมอุ่น 1 ชช.
  • กลิ่นวานิลา 2 หยด 
ผสมทุกอย่างรวมกันในถ้วย คนให้เนียน แล้วใช้แปรงชุบทาหน้าขนมปัง แค่นี้เองค่ะ เราตัดชิมตอนยังอุ่นๆ อยู่ อร่อยจริงๆ ค่ะ เนื้อขนมนุ่มมาก ไส้ก็หวานๆ มันๆ กลิ่นหอมอบอวลไปทั้งบ้านเลยค่ะ เพื่อนๆ ลองทำดูนะคะ


     

    Friday, May 6, 2011

    เค้กวานิลาโยเกิร์ตมะนาว : Lemon Vanilla Yoghurt Cake

    เพื่อนๆ ชอบกินเค้กมะนาวกันมั้ยคะ เราชอบมาก ติดใจตรงรสชาติเปรี้ยวอมหวาน กลิ่นหอมของมะนาว แล้วก็ความนุ่มชุ่มเนยด้วยค่ะ  เค้กโยเกิร์ตมะนาวสูตรนี้เราใช้วานิลาโยเกิร์ตแทนรสธรรมชาติค่ะ ทำเป็นรอบที่ 3 แล้ว สองรอบแรกทำใส่พิมพ์ปล่อง แต่ครั้งนี้ทำใส่พิมพ์ซิลิโคนเล็กๆ เพราะขี้เกียจอบนานๆ แล้วก็ชอบตรงที่ไม่ต้องทาเนยหรือปูกระดาษไขเค้กก็ไม่ติดพิมพ์น่ะค่ะ 

    สองครั้งแรกที่ทำเราก็ปรับสูตรไปเรื่อยๆ ครั้งแรกว่าลดน้ำตาลแล้วแต่ก็ยังหวานมากอยู่เลยไม่ได้ทำท็อปปิ้ง ครั้งที่สองก็ลดน้ำตาลลงอีก เพื่อนชิมก็บอกว่ายังหวานไปหน่อยอยู่ดี ครั้งนี้เราเลยลดน้ำตาลลงอีกนิด เราว่าหวานกำลังดีแล้วค่ะ 

     ส่วนผสม สำหรับพิมพ์ปล่องขนาด 20 ซม.
    • แป้งเค้ก 175 กรัม
    • ผงฟู 1 ชช.
    • เนยสดเค็ม 130 กรัม
    • เกลือป่น 1/4 ชช.
    • น้ำตาลทราย 150 กรัม
    • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
    • วานิลาโยเกิร์ต 100 กรัม
    • น้ำมะนาว 1 ชต.
    • ผิวมะนาวขูด 1 ลูก
    • กลิ่นมะนาว 1/2 ชช.
    วิธีทำ นำพิมพ์เค้กมาทาเนยและโรยแป้งบางให้ทั่วพิมพ์หรือใครจะตัดกระดาษไขปูพิมพ์แทนการทาเนยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครใช้พิมพ์ซิลิโคนก็ไม่ต้องทาเนยค่ะ จัดการอุ่นเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสด้วยนะคะ


    เมื่อเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยแล้วก็จัดการร่อนแป้งรวมกับผงฟู 2 รอบ แล้วพักไว้ก่อน


     ผสมโยเกิร์ต น้ำมะนาว และกลิ่นมะนาวเข้าด้วยกัน พักไว้ค่ะ

    นำเนยมาหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ เพื่อจะได้ตีได้สะดวกและตีเนียนง่ายขึ้นค่ะ ใส่เนยที่หั่นไว้ในอ่างผสมเตรียมพร้อมที่จะตีค่ะ

    ตีเนยด้วยความเร็วต่ำจนเนยเนียนดี ค่อยๆ ใส่น้ำตาลลงไปตีรวมกับเนยทีละนิดจนน้ำตาลหมดค่ะ  จากนั้นเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงตีไปเรื่อยๆ จนเนยกลายเป็นครีมฟูเบาสีขาวนวล ใช้เวลาตีประมาณ 5-6 นาทีค่ะ

    ใช้ไม้พายปาดรอบขอบอ่างแล้วตอกไข่ใส่ลงไป 1 ฟอง ตีต่อด้วยความเร็วกลางจนไข่กับเนยเข้ากันดี ใช้เวลาตีประมาณ 1 นาทีค่ะ  เมื่อเข้ากันดีแล้วก็ตอกไข่อีกฟองใส่ลงตีให้เข้ากันดีอีกครั้ง ส่วนผสมจะมีลักษณะเป็นครีมเนียนเนยกับไข่ไม่แยกตัวกันค่ะ อย่าลืมปาดขอบอ่างด้วยนะคะ เสร็จแล้วก็ใส่ผิวมะนาวขูดลงไปตีพอเข้ากันค่ะ


    จากนั้นแบ่งประมาณ 1/4 ของส่วนผสมแป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำสุดรวมกับส่วนผสมเนยแค่พอเข้ากัน ใส่ 1/3 ของส่วนผสมโยเกิร์ตลงไปตีรวมกัน ทำสลับกันอย่างนี้จนส่วนผสมหมด (รวมแล้วแบ่งแป้งเป็น 4 ส่วน โยเกิร์ต 3 ส่วน เริ่มด้วยแป้งจบด้วยแป้งนะคะ) ย้ำว่าต้องตีด้วยความเร็วต่ำสุด (หรือใช้ตะกร้อมือหรือไม้พายคน) ใช้เวลาตีแป๊บเดียว เอาแค่พอเข้ากันกับส่วนผสมอื่นก็พอ ไม่งั้นน้องเค้กจะทั้งหนักทั้งแน่นเชียวค่ะ นำส่วนผสมไปเทใส่พิมพ์แล้วเกลี่ยให้เรียบค่ะ


    นำไปวางบนชั้นกลางของเตาอบ ลดไฟเหลือ 160 องศาเซลเซียส ถ้าเป็นพิมพ์ปล่องก็อบไฟล่างอย่างเดียวประมาณ 40 นาที แล้วอบไฟบน-ล่างต่ออีกประมาณ 10-15 นาทีหรือจนกว่าเค้กจะสุกค่ะ ส่วนพิมพ์เล็กก็อบไฟบน-ล่างประมาณ 25 นาทีค่ะ  ทดสอบว่าเค้กสุกหรือยังโดยการนำไม้จิ้มฟันทิ่มตรงกลางเค้ก หากไม่มีแป้งติดไม้มาแสดงว่าเค้กสุกแล้วค่ะ  เมื่อเค้กสุกแล้วก็นำออกจากเตาอบ วางพิมพ์ไว้บนตะแกรง พักเค้กให้อุ่นในพิมพ์ประมาณ 5-10 นาที แล้วจึงเคาะออกจากพิมพ์ค่ะ 

    ส่วนผสมท็อปปิ้ง
    • น้ำตาลไอซิ่ง 40 กรัม
    • น้ำมะนาว 1 ชต.
    • กลิ่นมะนาว 2-3 หยด
    • ผิวมะนาวขูดนิดหน่อย
    ผสมน้ำตาลไอซิ่ง น้ำมะนาว และกลิ่นมะนาว คนให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปราดหน้าเค้ก โรยหน้าด้วยผิวมะนาวขูด


    ตอนอบเสร็จใหม่ๆ เค้กยังไม่เย็นสนิทเราก็ชิมแล้ว อร่อยมาก เราชอบกินเค้กเนยหรืออะไรพวกนี้ตอนที่อบใหม่ๆ น่ะค่ะ ส่วนตัวว่าอร่อยกว่าที่ทิ้งไว้ข้ามคืนเหมือนที่เค้าว่ากันเพราะมันนุ่มเบากว่าเมื่อทิ้งเค้กไว้ข้ามคืนหรือหลังจาก 2-3 วันไปแล้วเนื้อมันจะแน่นขึ้นหน่อย เราไม่ชอบกินเค้กเนื้อเน่นๆ น่ะค่ะ


    เนี่ย เค้กยังไม่เย็นเลยเรากินไป 2 ชิ้นล่ะ เห็นไวอยู่เรื่องเดียวเนี่ยล่ะค่ะ


    แฟนๆ เค้กมะนาวลองทำดูนะคะ เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ วันนี้บายก่อนจ้ะ แล้วเจอกันบล็อกหน้านะคะ