Tuesday, November 9, 2010

เบอรี่ชีสเค้ก : Berry Cheesecake


เมื่อวานคุณ aiwnoi ถามหาสูตรบลูเบอรี่ชีสเค้ก วันนี้เราเลยจัดให้ตามคำขอ แต่พอดีมีบลูเบอรี่และเรดเคอเรนท์แช่แข็งอยู่ เลยใส่ไปทั้งสองอย่างซะ ออกมาเปรี้ยวๆ หวานๆ มันๆ นุ่มๆ เบาๆ อร่อยดีค่ะ คุณ aiwnoi ชอบบลูเบอลี่ก็ใส่แค่บลูเบอลี่อย่างเดียวได้นะคะ มาดูสูตรเลยค่ะ

ส่วนผสมฐานเค้ก สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม. 
  •  เนยสดนุ่มๆ 40 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 25 กรัม
  • แป้งสาลีเอนกประสงค์ 80 กรัม
  • เกลือ 1 หยิบมือ
  • วานิลา 1/4 ชช.

ส่วนผสมชีสเค้ก
  • ครีมชีสนุ่มๆ 300 กรัม
  • แป้งเค้ก 20 กรัม
  • วานิลา 1 ชช.
  • วิปปิ้งครีม 80 กรัม
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 1 ฟอง (แยกขาว-แดง)
  • ไวท์ช็อคโกแล็ต 60 กรัม
  • เกลือป่น 1 หยิบมือ
  • บลูเบอรี่กับเรดเคอเรนท์ 60 กรัม
วิธีทำ

อุ่นเตาอบไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส ทาเนยให้ทั่วสปริงฟอร์มแล้วโรยแป้งนวลบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ค่ะ 

จากนั้นทำฐานเค้กโดยนำส่วนผสมทั้งหมดใส่อ่างผสม ใช้มีดหรือช้อนส้อมสับให้เข้ากันจนแป้งมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่วเขียว นำแป้งมาคลึงเป็นแผ่นกลมขนาดเท่าฐานพิมพ์แล้วนำไปกรุพิมพ์ ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่ว แล้วนำไปใส่ตู้เย็นพักไว้ก่อนค่ะ

ทำฐานเค้กเสร็จแล้วเราก็มาทำตัวชีสเค้กกันค่ะ โดยนำไวท์ช็อคโกแล็ตไปละลายในไมโครเวฟ พักไว้ก่อน จากนั้นนำครีมชีส, แป้งเค้ก, ไข่แดง, น้ำตาลทราย 30 กรัม, วานิลา และวิปปิ้งครีมใส่อ่างผสม ตีด้วยความเร็วกลางพอเข้ากัน  เทช็อคโกแล็ตที่ละลายไว้ใส่ลงไปคนพอเข้ากันค่ะ 

นำไข่ขาวกับเกลือป่นใส่ชามอ่างอีกใบ ตีด้วยความเร็วต่ำจนเป็นฟองแล้วใส่น้ำตาลทราย 10 กรัมที่เหลือลงไปตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน นำไปตะล่อมรวมกับส่วนผสมครีมชีส แบ่งใส่สัก 2 ครั้ง ตอนตะล่อมก็เบามือหน่อยนะคะ พอเข้ากันแล้วก็หยุดทันทีค่ะ เผลอคนนานๆ เดี๋ยวเค้กแฟ่บนะคะ

เท 1/2 ของส่วนผสมใส่ตรงกลางพิมพ์ เกลี่ยให้หน้าเรียบเสมอกันแล้วโรยหน้าด้วย 1/2 ของเบอรี่ที่เตรียมไว้ ตามด้วยส่วนผสมอีกครึ่งที่เหลือและเบอรี่ส่วนที่เหลือค่ะ  นำชีสเค้กเข้าวางชั้นที่ 2 จากล่างของเตาอบ ลดไฟเหลือ 160 องศาเซลเซียส  อบไฟบน-ล่างจนหน้าเค้กเซ็ตตัวดี ใช้เวลาอบประมาณ 50 นาทีค่ะ  เมื่อเค้กสุกทิ้งให้เย็นตัวในเตาอบอีกประมาณ 30 นาที โดยแง้มฝาเตาอบไว้เล็กน้อยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาแซะออกจากขอบพิมพ์ เอาขอบพิมพ์ออกแล้วพักไว้บนตะแกรงจนเย็นอุณหภูมิห้องค่อยนำเค้กวางบนจาน นำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟนะคะ


ตอนอบเราลืมลดไฟ อบ 180 ซีไปเลย เค้กออกมาบูดๆ เบี้ยวๆ ไม่ค่อยสวยเลยค่ะ ถ้าอบ 160 ซีรับรองออกมาสวยกว่านี้แน่นอน  ได้เวลาหม่ำๆ ก็ราดซอสเบอรี่เปรี้ยวๆ หวานๆ เข้าไป อร่อยชื่นใจดีค่ะ ใครชอบชีสเค้กเปรี้ยวหวานมันอร่อยลองทำดูนะคะ


19 comments:

aiwnoi said...

คุญอุ๊ยคะ..
ขอบคุณค่ะสำหรับบลูเบอรี่ชีสเค้ก..น่าทานมากๆๆค่ะ แต่อยากถามว่าแล้วพายบลูเบอรีที่เค้าทำๆกันต่างกับอันนี้ยังไงคะ..คุณอุ๊ยมีสูตรรึเปล่าคะถ้ามีลงรูปด้วยนะคะ..ขอบคุณมากๆๆค่ะ

อุ้ยอ้าย said...

คุณ aiwnoi หมายถึงบลูเบอรี่ชีสพายแบบไม่อบ ที่มีฐานเป็นครัสท์ทำมาจากคุ๊กกี้ ทำฟิลลิ่งเป็นครีมชีสนำไปแช่เย็นให้เซ็ตตัว แล้วราดด้วยบลูเบอรี่ท็อปปิ้งรึเปล่าคะ ถ้าแบบนั้นเราไม่ได้ทำเลยเพราะที่บ้านไม่มีใครชอบกินน่ะค่ะ

aiwnoi said...

คุณอุ๊ยคะ..แล้ววิธีเก็บมาคารองที่ทำเสร็จแล้วเก็บยังไงคะที่จะเก็บได้นานแต่ยังอร่อยอยู่ค่ะ

อุ้ยอ้าย said...

มาคารองเก็บได้ประมาณ 1 อาทิตย์ค่ะคุณ aiwnoi วิธีเก็บก็ใส่กล่องหรือขวดโหลที่ปิดสนิทแล้วนำไปใส่ตู้เย็นไว้ค่ะ

Anonymous said...

คุณอุ้ย สวีสดีจ้า...พักนี้งานเข้า ยุ่งๆๆอะคะ ยังไม่เคยลองทำชีสเค้กสูตรของคุณอุ้ยเลยว่างๆอยากลองทำดูมั่ง...สบายดีนะคะ
อุ๋มจ้า

Anonymous said...

โหลๆ จ้าคุณอุ๋ม หายไปนานมากกกก งานยุ่งมากเลยเหรอ สบายดีรึเปล่า คิดถึงนะคะ วันนี้อุ้ยก็ว่าจะทำชีสเค้กกินให้พองเล่นๆ เหมือนกันจ้ะ อยากกินมาหลายวันแล้วแต่ขี้เกี๊ยจ ขี้เกียจ

Anonymous said...

555 จริงๆแล้วแอบไปเที่ยวเนปาลมาเกือบๆ 3 อาทิตย์คร้า และก็ทำโน้นให้นี่ ทำนี้ให้คนั้น และอื่นๆ อะไรก็ไม่รู้ อิอิ แต่ก็แอบเข้ามาดุบล๊อกบ่อยๆน้า แค่ไม่ได้เม้นท์แค่นั้นเองคะ
อุ๋ม

Anonymous said...

คุณอุ๋มได้ไปเที่ยวเนปาลตั้ง 3 อาทิตย์เลย อิจฉาๆ อยากไปมั่งอ่ะ ว่าแต่คนที่นั่นเค้าพูดภาษาอะไรกันเหรอคะ

aiwnoi said...

คุณอุ๊ยคะ..
มีปัญหามาถามอีกแล้วค่ะ วันนี้ทำขนมปังมันฝรั่งไส้ไก่..แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเลยค่ะ ตอนที่นวดแป้งเรียบร้อยแล้ว ทำไมแป้งไม่ขึ้นเลยทำตามสูตรทุกอย่างค่ะ อบแล้วก็ไม่เกิดปฎิกิริยาอะไรใดๆเลยค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรคะ

อุ้ยอ้าย said...

ถ้าแป้งไม่ขึ้นเลยเนี่ยน่าจะมาจาก 2 สาเหตุค่ะ
1. ยีสต์หมดอายุแล้วจึงไม่ทำปฏิกิริยาอะไรกับแป้งเลย ทางที่ดีเพื่อความมั่นใจก่อนจะใส่ยีสต์ลงไปในส่วนผสมอื่นก็ทำการทดสอบยีสต์ก่อนโดยละลายยีสต์กับนมสดอุ่น/น้ำอุ่น(แล้วแต่ว่าสูตรให้ใช้น้ำหรือนม) ใส่น้ำตาลทรายลงไปสัก 1 หยิบมือ คนให้เข้ากันแล้วพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 10 นาที ถ้ายีสต์ขึ้นฟูก็แสดงว่ายีสต์ยังไม่ตาย ยังใช้ได้อยู่ค่ะ

**ข้อควรระวัง** พยายามแยกยีสต์กับเกลือให้อยู่ห่างๆ กันหน่อยค่ะ ถ้านวดมือก็นวดส่วนผสมอื่นให้เข้ากันดีจนแป้งใกล้จะเนียนก่อน แล้วค่อยใส่เกลือลงไปนวดต่อจนแป้งเนียนและยืดหยุ่นดีค่ะ เพราะยีสต์กับเกลือมันไม่ค่อยถูกกัน อยู่ใกล้กันมากยีสต์ยังไม่ได้เกิดก็จะถูกเกลือชิงทำให้แท้งไปก่อนนะคะ

2. ถ้าแป้งไม่ขึ้นเลยนี่เป็นไปได้ว่า "ลืมใส่ยีสต์" รึเปล่าคะ ก๊ากกกก พูดจริงนะเนี่ย ไม่ได้แซวเพราะอุ้ยเคยลืมเหมือนกัน กินไม่ได้ เสียดายของ เซ็งสุดๆ 55

aiwnoi said...

ขอบคุณค่ะคุณอุ๊ย..
งั้นคิดว่ายีสต์น่าจะหมดอายุค่ะ..แต่ไม่ได้ทดสอบก่อนลงมือทำ แล้วคุณอุ๊ยมีวิธีเก็บยีสต์แห้งมั๊ยคะ รบกวนคุณอุ๊ยอีกแล้วค่ะ

Anonymous said...

อยากลองทำทานมากกค่ะ

Anonymous said...

สวัสดีค่ะ คุณอุ๊ย คือว่าไม่เคยทำขนมเค้กเลย พอดีมีลูกน้อยครบรอบวันเกิด เลยเกิดแรงบันดาลใจ ก็มาค้นหา พบสูตรบัตเตอร์ครีมของคุณอุ๊ยเข้า
จอยก็ลองทำไปแล้วอร่อยเหมือนเค้กเมืองไทยเลย แต่หาเนยขาวไม่เจอเลยใช้ยี่ห้อ Sanella แทน ก็อร่อยดี แต่สีมันไม่ขาวน่ะค่ะ อยากได้สีขาวๆ เลยอยากรบกวนถามคุณอุ๊ยว่า คุณอุ๊ยใช้ยี่ห้ออะไรคะ ของเยอรมันนะคะ และก็ครีมชีส สำหรับเบอร์รี่ชีสเค้กอันนี้ด้วยนะคะ รบกวนขอยี่ห้อด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

Anonymous said...

สวัสดีค่ะ คุณอุ๊ย อยากรบกวนถามคุณอุ๊ยว่า เนยขาวของเยอรมันคุณอุ๊ยใช้ยี่ห้ออะไรคะ จอยลองทำบัตเตอร์ครีมแต่หาเนยขาวไม่ได้เลยใช้ Sanella แก้ขัดไป ก็ใช้ได้ค่ะ แต่สีไม่ขาว และยี่ห้อครีมชีส ด้วยนะคะ อยากลองทำชีสเค้กแบบนี้บ้าง
ขอบคุณค่ะ
ปล. โพสไปทีนึงแล้ว แต่ข้อความไม่ขึ้น ถ้าขึ้นซ้ำขออภัยด้วยนะคะ

อุ้ยอ้าย said...

- คุณ aiwnoi คะ ยีสต์แห้งของที่นี่เป็นซองเล็กๆ แค่ 7 กรัมเอง ใช้ครั้งสองครั้งก็หมดแล้ว อุ้ยก็พับซองเก็บธรรมดาค่ะ ที่เมืองไทยเห็นเพื่อนเทใส่กล่องเล็กๆ เก็บในที่อุณหภูมิห้องไม่โดนแดด แล้วแปะวันหมดอายุติดไว้ด้วยค่ะ

- เนยขาวคือ Pflanzenfett ใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ หาซื้อได้ตามซุบเปอร์ทั่วไป ส่วนครีมชีสถ้าชอบแบบเข้มข้นก็ใช้ของฟิลาเดลเฟียแบบ Doppelrahm เค้กจะออกมาเข้มข้นกว่าแต่อ้วนค่ะ ปกติถ้าทำชีสเค้กเราจะใช้ Magerquark เพราะไขมันต่ำกว่า 1% รสชาติอาจจะไม่มันและเข้มข้นน้อยกว่าครีมชีสไขมันสูงๆ แต่ก็อร่อยและเบาๆ ดีค่ะ

Anonymous said...

สวัสดีค่ะคุณอุ๊ย ขนมหน้าตาน่าทานมากๆ เลยค่ะ จะรีบไปลองทำดูบ้างนะคะ ^^
อยากทราบว่าซอสเบอร์รี่ที่ใช้ราดตอนทานน่ะคะ มีส่วนผสมอะไรบ้างคะ จะได้ลองทำให้ครบตามสูตรเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆ นะคะ

อ้น

อุ้ยอ้าย said...

ขอบคุณมากค่ะคุณอ้น สูตรซอสเบอรี่อยู่นี่นะคะ

http://varithorneng.blogspot.com/2009/08/berries-topping.html

Unknown said...

แอบเข้ามาหาสูตรเด็ดๆอีกแล้ววววว.....น่าทานมากมายแต่ต๋อยไม่มีพิมพ์เล็กเลยถ้าเป็นพิมพ์ใหญ่21ซม. จะต้องเพ่ิมส่วนผสมยังไงบ้างคะ ขอบคุณคะ

อุ้ยอ้าย said...

ถ้าพิมพื 21 ซม. น่าจะต้องเพิ่มอีก 1/2 ของสูตรนะคะน้องต๋อย ก็ประมาณนี้

ส่วนผสมฐานเค้ก สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 21 ซม.
เนยสดนุ่มๆ 60 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 35 กรัม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 120 กรัม
เกลือ 1/4 ชช.
วานิลา 1/2 ชช.

ส่วนผสมชีสเค้ก
ครีมชีสนุ่มๆ 450 กรัม
แป้งเค้ก 30 กรัม
วานิลา 1 ชช.
วิปปิ้งครีม 125 มล.
น้ำตาลทราย 60 กรัม
ไข่ไก่แดงขนาดใหญ่ 2 ฟอง
ไข่ขาวขนาดใหญ่ 1 ฟอง
ไวท์ช็อคโกแล็ต 100 กรัม
เกลือป่น 1/4 ชช.
บลูเบอรี่กับเรดเคอเรนท์ 100 กรัม